💗การจัดการความเสี่ยง💗
💛ความหมายของความเสี่ยงในมุมมองขององค์การทั่วไป
ความเสี่ยง (Risk) หมายถึง เหตุการณ์/การกระทำใดๆ
ที่มีความแน่นอนซึ่งหากเกิดขึ้นจะมีผลกระทบในเชิงลบ
ต่อวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายขององค์การ
หรือลดโอกาสที่จะบรรลุความสำเร็จต่อการบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของแผนงาน/โครงการที่จะก้าวสู่พันธกิจ
และวิสัยทัศน์ที่ได้กำหนดไว้
โอกาส (Opportunity) หมายถึง
เหตุการณ์ที่มีความไม่แน่นอน ซึ่งหากเกิดขึ้นจะมีผลกระทบในเชิงบวก
ต่อวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายขององค์การซึ่งผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องควรจะได้ทบทวนถึงกลยุทธ์ที่เหมาะสมและแผนงานที่เหมาะสมใหม่
เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่ม (Value Creation) ให้กับองค์การนอกเหนือจากแผนงานและโครงการที่ได้กำหนดไว้แล้ว
ความเสี่ยงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในอนาคต
ประกอบด้วยปัจจัย 2 ประการ คือ ความเป็นไปได้ของโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์หรือความน่าจะเกิดขึ้น
และความรุนแรงของผลตรงข้ามที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นั้นสิ่งสำคัญต้องทำให้ทั้ง 2 ประการได้สมดุลกัน
👉ประเภทของความเสี่ยง
ความเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคหรืออันตราย (Hazard)
ความเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคหรืออันตราย
คือ
เหตุการณ์ในเชิงลบ/เหตุการณ์ไม่ดีที่หากเกิดขึ้นแล้วอาจเป็นอันตรายหรือสร้างความเสียหายต่อองค์การ
เช่น ภาวการณ์เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การแข่งขันทางการตลาดทั้งสินค้าและบริการ
การเปลี่ยนแปลงนโยบาย กลยุทธ์ ศักยภาพ ความสามารถของผู้บริหารและพนักงาน เป็นต้น
ความเสี่ยงที่เป็นความไม่แน่นอน (Uncertainly)
ความเสี่ยงที่เป็นความไม่แน่นอน คือ
เหตุการณ์ที่ทำให้ผลที่องค์การได้รับจากการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
หรือการไม่สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ
อันเนื่องมาจากสาเหตุต่างๆ กัน เช่น
ต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงสูงกว่างบประมาณที่กำหนดไว้ เป็นต้น
ความเสี่ยงที่เป็นโอกาส (Opportunity)
ความเสี่ยงที่เป็นโอกาส
คือ เหตุการณ์ที่ทำให้องค์การเสียโอกาสในการแข่งขัน
การดำเนินงานและการเพิ่มมูลค่าของผู้มีผลประโยชน์ร่วม เช่น
การไม่ส่งเสริมหรือพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะในการปฏิบัติงาน
เพื่อยกระดับประสิทธิภาพขององค์การ เป็นต้น
สาเหตุแห่งความเสี่ยง
ความเสี่ยงทุกประเภทเกิดขึ้นโดยมีเหตุแห่งความเสี่ยง (Risk
Driver) ซึ่งอาจเป็นเหตุที่เกิดจากภายในองค์การ
ผู้บริหารควรทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อธุรกิจและเหตุผลแห่งความเสี่ยงที่เกิดขึ้นมาตลอดเวลา
เพื่อจะได้สามารถควบคุมได้อย่างเพียงพอและเหมาะสมต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น
ความเสี่ยงสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
โดยองค์การทั่วไปมักต้องเผชิญกับเหตุการณ์เหล่านี้ เช่น
แผนงาน/โครงการใหม่ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ การลงทุนไม่ให้ผลตอบแทนตามที่คาดไว้
การละเลยกระบวนการทางธุรกิจ ภาวการณ์เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
คุณภาพหรือปัญหาข้อขัดข้องของกิจกรรมประมวลผลและระบบสารสนเทศ เป็นต้น ดังนั้น
องค์การทั่วไปควรดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดเหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย
แต่สามารถบ่งชี้เหตุการณ์ที่เป็นโอกาสในการเพิ่มคุณค่าให้กับองค์การ
สิ่งที่ทำให้ผู้บริหารต้องให้ความสำคัญหรือการกำหนดระดับความไม่แน่นอนที่องค์การยอมรับได้
แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเพิ่มคุณค่าให้กับผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน
แนวคิดการบริหารความเสี่ยง
การบริหารความเสี่ยง (Risk
Management) เป็นกลวิธีที่เป็นเหตุผลที่นำมาใช้ในการบ่งชี้
วิเคราะห์ ประเมิน จัดการ ติดตาม และสื่อสารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม
หน่วยงาน/ฝ่ายงาน หรือกระบวนการดำเนินงานขององค์การ
เพี่อช่วยให้องค์การลดความสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด
และเพิ่มโอกาสให้แก่ธุรกิจมากที่สุด การบริหารความเสี่ยง
ยังหมายความถึงการประกอบกันอย่างลงตัวของวัฒนธรรมองค์การ
กระบวนการและโครงสร้างองค์การ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการบริหาร
และผลได้ผลเสียขององค์การ
การบริหารความเสี่ยงโดยมีโครงสร้างองค์การ กระบวนการ และวัฒนธรรมองค์การ
ประกอบเข้าด้วยกันและมีลักษณะที่สำคัญ ได้แก่
💙1. ผสมผสานและเป็นส่วนหนึ่งขององค์การ
เพราะเป็นกลไกส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนไปสู่การกำกับดูแลกิจการที่ดี
💙2. การบริหารความเสี่ยงควรสอดคล้องกับแผนการต่างๆขององค์การ
💙 3. พิจารณาความเสี่ยงทั้งหมด
โดยครอบคลุมความเสี่ยงทั่วทั้งองค์การ
💙4. ความเสี่ยงโดยรวมขององค์การ ได้แก่ ความเสี่ยงเกี่ยวกับกลยุทธ์ (Strategic
Risk) ความเสี่ยงเกี่ยวกับประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน (Operational
Risk) ความเสี่ยงเกี่ยวกับการรายงานทุกประเภท
รวมทั้งรายงานทางการเงิน (Financial Risk) และความเสี่ยงทางด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ คำสั่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง (Compliance Risk) ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเสียหาย ความไม่แน่นอน และโอกาส
รวมถึงการมีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์ และความพึ่งพอใจของผู้มีส่วนได้เสียอย่างสำคัญ
💙5. การบริหารความเสี่ยงมีความคิดแบบมองไปข้าง
โดยบ่งชี้ปัจจัยของความเสี่ยงว่าเหตุการณ์ใดที่อาจจะเกิดขึ้นที่มีผลทางลบและมีผลต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ
💙 6. ได้การสนับสนุนและมีส่วนร่วม โดยทุกคนในองค์การตั้งแต่ระดับกรรมการ
ผู้บริหารระดับสูงและพนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหารความเสี่ยงเพื่อความสำเร็จของเป้าประสงค์
หลักพันธกิจ และวิสัยทัศน์ขององค์การ
การจัดการความเสี่ยงขององค์การ (Enterprise
Risk Management : ERM)
COSO (Committee of Sponsoring Organizations of
Treadway Commission) ได้เสนอแนวทางใหม่ที่เรียกว่า
การจัดการความเสี่ยงขององค์การ (Enterprise Risk Management :
ERM) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ระบุและวิเคราะห์ความเสี่ยงในมุมมองของภาพที่เป็นองค์รวมแบบบูรณาการทั่วทั้งองค์การ
ทุกองค์การไม่ว่าจะเป็นองค์การที่หวังผลกำไร
องค์การทางการกุศล
หรือหน่วยงานของรัฐบาลที่ตั้งขึ้นเพื่อเพิ่มคุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้เสีย
ทุกองค์การนั้นต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและความท้าทายทางการบริหาร
เพื่อที่จะกำหนดระดับของความไม่แน่นอนที่สามารถเตรียมพร้อมในการยอมรับในความเสี่ยงเป็นกรอบความคิดทางการบริหารเพื่อที่จะจัดการกับสภาวการณ์ที่ไม่มีความแน่นอนอย่างมีประสิทธิภาพและเกี่ยวข้องกับความเสี่ยง
โอกาสและการเพิ่มความสามารถในการสร้างคุณค่าได้อย่างแท้จริงในหลักการของการบริหารเชิกรุกหรือการบริหารความเสี่ยงภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีในการสร้างคุณค่าเพิ่มระยะยาวให้กับองค์การและสังคม
ประโยชน์ของการจัดการความเสี่ยงขององค์การ
ไม่มีองค์การใดไม่ว่าภาครัฐหรือภาคเอกชนสามารถดำเนินการภายใต้สภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยงได้องค์การที่ต้องดำเนินในสภาวะแวดล้อมดังกล่าว
การจัดการความเสี่ยงจะช่วยให้ฝ่ายบริหารจัดการกับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี
เพื่อก้าวสู่การบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายได้อย่างสมเหตุสมผล
การจัดการความเสี่ยงขององค์การ
เป็นการส่งเสริมความสามารถในด้านต่อไปนี้
การปรับความเสี่ยงที่องค์การยอมรับได้
การปรับความเสี่ยงที่องค์การยอมรับได้เป็นการกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับความเสี่ยงที่องค์การยอมรับได้
คือระดับความเสี่ยงที่องค์การเต็มใจที่จะยอมรับเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายขององค์การ
ซึ่งการบริหารความเสี่ยงจะพิจารณาถึงความเสี่ยงที่องค์การยอมรับได้เป็นอย่างแรก
เพื่อประเมินทางเลือกและพัฒนากลไกในการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องต่อไป
ความเชื่อมโยงการเติบโต ความเสี่ยง
และผลตอบแทน
การบริหารความเสี่ยงช่วยในการระบุและประเมินความเสี่ยง
รวมทั้งกำหนดระดับความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้
ที่สัมพันธ์กับการเติบโตและเป้าหมายของผลตอบแทนตามวัตถุประสงค์ที่องค์การกำหนดไว้
ส่งเสริมการตัดสินใจในการตอบสนองความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
การบริหารความเสี่ยงใช้ในการระบุและเลือกทางเลือกในการตอบสนองความเสี่ยงในรูปแบบต่างๆ
ทั้งยังช่วยจัดหาวิธีการและเทคนิคสำหรับการตัดสินใจ
การลดความไม่แน่นอนและความสูญในการปฏิบัติงานให้น้อยที่สุด
การลดความไม่แน่นอนและความสูญเสียในการปฏิบัติงานให้น้อยที่สุดช่วยให้องค์การสามารถระบุเหตุการณ์ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น
ประเมินความเสี่ยงและจัดการตอบสนองต่อความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
รวมทั้งลดสิ่งไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้น ตลอดจนความสัมพันธ์ของต้นทุนและการสูญเสีย
การระบุแลบริหารความเสี่ยงในองค์การ
ทุกๆองค์การเผชิญกับความเสี่ยงมากมายหลายประเภทที่ส่งผลต่อส่วนต่างๆขององค์การที่แตกต่างกัน
ฝ่ายบริหารไม่เพียงแต่ต้องบริหารความเสี่ยงเฉพาะบุคคลแต่เข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นด้วย
มีการตอบสนองแบบบูรณาการกับความเสี่ยงที่หลากหลาย
กระบวนการทางธุรกิจนำมาซึ่งความเสี่ยงสืบเนื่องหรือความเสี่ยงจากลักษณะธุรกิจในหลายรูปแบบ
และการจัดการความเสี่ยงทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการต่อการบริหารความเสี่ยง
การฉกฉวยโอกาส
ฝ่ายบริหารต้องพิจารณาเหตุการณ์ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นมากกว่าพิจารณาเฉพาะความเสี่ยง
โดยการพิจารณาทุกระดับของเหตุการณ์
การจัดการกับทุนอย่างสมเหตุสมผล
การจัดการกับทุนอย่างสมเหตุสมผลต้องใช้ข้อมูลที่ถูกต้องมีความหมายต่อความเสี่ยงทั้งหมดขององค์การ
สิ่งนี้จะทำให้การบริหารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการจัดเข้าถึงความต้องการและปรับปรุงการจัดสรรทรัพย์สินหรือทุน
รวมถึงงบประมานได้อย่างเหมาะสม
กรอบการบริหารความเสี่ยง
กรอบการบริหารความเสี่ยงจะช่วยให้ทุกหน่วยงานในองค์การมีวิธีการในการระบุ
ประเมิน และจัดการความเสี่ยงในทิศทางเดียวกัน
อันจะส่งผลให้การบริหารความเสี่ยงเกิดประสิทธิผลสูงสุด
กรอบการบริหารความเสี่ยงประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ดังนี้
วัฒนธรรมองค์การ (Culture)
ในการบริหารความเสี่ยงในทุกๆระดับขององค์การ
โดยผู้บริหารระดับสูงกำหนดนโยบาย วัตถุประสงค์
และกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงและระดับความเสี่ยงที่องค์การยอมรับได้
และชี้แจงสิ่งเหล่านี้ให้ทุกคนในองค์การได้รับทราบเพื่อจะได้ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง
โครงสร้างการบริหารความเสี่ยง (Structure)
กำหนดโครงสร้างการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม
และระบุหน้าที่และความรับผิดชอบต่อการบริหารความเสี่ยงอย่างชัดเจน โดยถือว่าการบริหารความเสี่ยงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของทุกคนในองค์การ
ตั้งแต่คณะกรรมการผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหาร
และพนักงานทุกคน
กระบวนการ (Process)
ปฏิบัติตามระบวนการบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
โดยมีการปรับปรุงกระบวนการให้มีความเหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจอยู่เสมอ
ปัจจัยพื้นฐาน (Infrastructure)
มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี อันประกอบด้วย
💚 1. บุคลากรที่มีความสามารถ
💚2. วิธีการวัดผลการดำเนินงาน
💚 3. การให้ความรู้และฝึกอบรม
💚4. ช่องทางในการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์การ
💚 5. วิธีการสอบทานคุณภาพเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าองค์การสามารถดำเนินการบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขอขอบคุณ
https://sites.google.com/site/rtech603xx/unit-9/unit-14
สืบค้นเมื่อวันที่(1กรกฏาคม2562)